สวัสดี สุขสันต์วันเกิด ... สบายดีมั้ยล่ะ ? เธอมีความสุขดีมั้ย ?

สวัสดี ฉันเมื่ออายุ 19 สบายดีมั้ยล่ะ ? เธอมีความสุขดีมั้ย ?   เลข 9 นั้นเป็นตัวเลขที่ฉันชอบมากที่สุดเลยรู้มั้ย แต่พอมันมาต่อท้ายกับอา...


สวัสดี ฉันเมื่ออายุ
19

สบายดีมั้ยล่ะ ? เธอมีความสุขดีมั้ย ?  เลข 9 นั้นเป็นตัวเลขที่ฉันชอบมากที่สุดเลยรู้มั้ย แต่พอมันมาต่อท้ายกับอายุแล้วฉันไม่ชอบเลย ปีนี้ฉันเข้าเลข 9 อีกรอบแล้ว เป็น 29 ปี อายุ 19 มันสดๆดีเนอะ คือมันกำลังวัยรุ่น วัยอิสระ วัยกำลังหาทางให้กับชีวิต
อยากทำอะไรก็ ทำ
อยากกินอะไรก็ กิน

อยากเที่ยวก็ เที่ยว

ใช้ชัวิตอย่างอิสระ



มันควรจะเป็นแบบนี้ใช่มั้ยชีวิต ในยุคนี้ ยุคของฉัน คำพูดพวกนี้เกลื่อนเมืองมาก คิดแล้วฉันก็อิจฉาจังเลย ฉันก็คิดว่าถ้าเธอได้รับรู้ว่าสมัยนี้เป็นยังไง เธอก็อาจจะอิจฉาเนอะ เธออิจฉาอยู่แล้วแหละ แม้แต่ตอนเด็กๆ เธอก็มักจะอิจฉาเพื่อนเธอที่ได้เงินจากแม่อาทิตย์ละครั้งเป็นจำนวนเยอะๆ เพื่อนสนิทเธอคนนั้นซื้อขนมมาเลี้ยงเธอ จนเธอเหมือนเป็นลูกเจี๊ยบที่น่าสงสารเดินตามแม่ไก่ เธอไม่เคยได้มีเงินซื้อขนมอะไรแบบนั้นหรอก เธออิจฉาเขาทำไมพ่อแม่เราไม่มีเงินแบบพ่อแม่คนอื่นบ้างนะ?
ถนนรัฐอำนวย บ้านเก่า
ไหนจะเรื่องเสื้อผ้า รองเท้า ที่ไม่มีของใหม่ๆกับเขาสักเท่าไร จะพูดยังงั้นก็ไม่ได้หรอก เพราะน้าเพ็ญมักจะพาเธอและพี่สาวน้องสาวไปซื้อ แล้วก็หอบมาให้จากไหนไม่รู้เยอะแยะ แต่ที่เธออิจฉาและน้อยใจคือ แม่ของเธอไม่เคยจะสนใจเรื่องพวกนี้เลย สุดท้ายรองเท้านักเรียน หรือเสื้อผ้านักเรียนเธอก็ได้รับบริจาคมา (จำได้มั้ยรองเท้าใส่เล่น ถ้าทำหายนี่บ้านแตกเลย) จนถึงอายุ 19 เธอก็ยังใส่เสื้อนักเรียนของคนอื่น ฉันรู้ว่าเธออิจฉาเวลาที่เธอเห็นเพื่อนๆเธอใส่เสื้อผ้าชุดนักเรียนใหม่ อิจฉาเวลาเห็นเพื่อนได้ใส่รองเท้าพละคู่หนาๆ แต่เธอใส่แต่คู่ไม่สวย ทำไมพ่อแม่เราไม่มีเงินแบบพ่อแม่คนอื่นบ้างนะ?

แม็คโดนัลคืออะไร
? โคคาสุกี้เป็นยังไง ? KFC หรือ ไม่รู้สิ อยากลองดูเหมือนกันเนอะสมัยนั้น ทำไมพ่อแม่เราไม่มีเงินแบบพ่อแม่คนอื่นบ้างนะ?
น้ำท่วมแถวบ้าน เด็กๆก็วิ่งเล่นไป
ตอนเด็กๆ จำได้มั้ยพ่อพาพวกเธอไปซื้อตุ๊กตาหมีพู และชุดระบายสีชุดใหญ่ เธอกับพี่และน้องสาวอ้อนพ่อให้พาไปในเช้าวันอาทิตย์วันนึง พ่อพาพวกเธอไปซื้อที่ฟิวเจอร์พาร์ค (เดินห้างกับพ่อครั้งแรก) แต่ดันได้ตุ๊กตาหมีพูตัวละ 150 ตัวเล็กมาคนละตัว และชุดระบายสีชุดเล็กคนละชุด ทั้งๆที่เธออยากได้ชุดใหญ่ ฉันจำได้ว่าวันนั้นฉันตระหนักได้จริงๆแล้วว่าพ่อไม่ได้มีเงินมากมายจริงๆ เราต้องประมาณตัวเองนะจำไว้!

เธอก็รู้นี่นาว่าบ้านเราลำบากมาก อย่าอิจฉาคนอื่นเลย พ่อบอกเสมอว่าถ้าอยากได้อะไร ก็ทำงานหาเงินเอา เธอก็เลยทำงานรับจ้างนั่นนี่มาตลอดเนอะ ทำแบบนี้แหละดีแล้ว
ฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง มันเป็นเรื่องที่ตลกมาก ใหม่เล่าให้ฉันฟังว่าพาพ่อไปเดินฟิวเจอร์จะซื้อเสื้อผ้าใส่ไปทำงานต่างประเทศ ที่นี้ใหม่อยากได้เสื้อตัวนึงสวยมาก พ่อบอกเอาสิพ่อซื้อให้ แต่พอดูราคาเท่านั้นแหละ 7,000 บาท พ่อนี่อึ้งเลย แล้วก็มีอีกตอนนึง ตอนนั้นช่วงปีใหม่ฉันพาพ่อไปซื้อกางเกงยีนส์เป็นของขวัญปีใหม่ พ่อน้ำตาจะไหลเลยแหละรู้มั้ย แกเกรงใจมากว่ากางเกงยีนส์บนห้างมันแพง แกไปซื้อตัวถูกๆข้างทางก็ได้ (โถ พ่อ) พ่อเห็นเสื้อสวยพ่อจะซื้อไปให้แม่บ้าง แต่เสื้อราคาตั้ง 4,000 กว่าบาท ฉันสงสารพ่อมากที่พ่อไม่มีเงินซื้อเสื้อให้แม่ พอคิดแล้วจะร้องไห้ ตอนเด็กๆพวกเธออยากได้นั่นอยากได้นี่ พอได้ก็ไม่ยอมพอใจ พวกเธอตอนนั้นไม่ได้คิดถึงจิตใจของพ่อเลยว่าพ่อคงจะเศร้าแน่ๆ แต่ฉันคิดว่าถ้าซื้อไปแม่จะด่าแน่ๆ แกจะบอกว่า เอาเงินมาให้กูเถอะ กูใส่ตัวละ 10บาท 20บาทก็พอซึ่งแม่ก็พูดประมาณนี้จริงๆ
ตอนเด็กๆเวลาเล่นน้ำ คิดหลายครั้งว่าอยากลองกระโดดลงจากสะพานข้ามแม่น้ำ จนตอนนี้ก็ยังไม่เคย
วันก่อนแม่พูดกับเราว่า แปลกดีนะ ที่แม่ไม่ต้องทำอะไรเลย แม่ทำงานขายของ ไม่สนใจเลยว่าลูกจะเรียนอะไร ทำงานอะไร ก็ทำเองได้จนเรียนจบทำงานมีเงินฉันทำได้แต่ยิ้ม แล้วก็คิดถึงเธอตอนเด็กๆ แล้วอยากจะบอกว่า แม่น่าจะสนใจมากกว่านี้นะฮ่าๆ ฉันไม่ได้พูดกับแม่หรอกนะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว

ในความอิจฉาและน้อยใจทั้งหมดทั้งมวลจริงๆแล้ว สิ่งที่เธออยากจะได้จากที่บ้านจริงๆ คงเป็นเรื่อง
การผจญภัยอย่างถูกกฏหมายมากกว่าใช่มั้ยนั่นคือสิ่งที่เธออยากจะทำและชั้นก็อยากจะทำมากที่สุด รู้มั้ยตอนนี้แม่ก็ไม่อนุญาตให้ฉันได้ออกผจญภัยเท่าที่ต้องการเลย แต่ฉันก็ทำเหมือนเดิม คือหนีไปเหมือนเดิม หนีไปเหมือนหนีไปเล่นน้ำตอนเด็กๆนั่นแหละ และในอีกแง่นึงฉันก็ไปไหนมาไหนตามใจตัวเองไม่ได้อีก เพราะฉันต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ ถึงจะโตแล้วอายุ 29แล้วไอ้ที่เคยคิดว่าจะเที่ยวก็เที่ยวนั้น ยิ่งโตก็ยิ่งทำได้ลำบากกว่าเดิม จนมาคิดว่า รู้งี้เที่ยวตั้งแต่อายุ 19 แล้ว แต่พูดยังงั้นก็เถอะ ความจริงอายุ 19 เธอก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบอยู่ดี เธอต้องช่วยพ่อแม่หาเงิน รับผิดชอบต่อตัวเอง สุดท้ายฉันก็วนกลับมาคิดแบบเดิมทำไมพ่อแม่เราไม่มีเงินแบบพ่อแม่คนอื่นบ้างนะ?

เธอคิดว่า ฉันคิดแบบนี้ ถามคำถามนี้วนเวียนมาตั้งกี่ครั้งจนอายุป่านนี้?

แหมมมมม พูดซะเหมือนชีวิตของฉันที่ผ่านมาจะไม่มีอะไรดี ถึงแม้ว่าฉันอยากจะขอเงินพ่อแล้วออกไปท่องเที่ยวตามใจอยาก อยากจะซื้อเกมส์ อยากจะไปเที่ยวสวนสนุกทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้ก็เถอะ

พ่อแม่และอุ๊

เธอเคยฝันว่าอยากทำงานในวงการเพลงญี่ปุ่นจำได้มั้ย
?? ฝันลมๆแล้งๆด้วยความบ้าดารานักร้อง จริงๆเธอทำสำเร็จนะรู้มั้ยล่า ฉันเคยได้ทำงานในคลื่นวิทยุเพลงญี่ปุ่นที่ใฝ่ฝันด้วย ทำนานเลยแหละ ได้ทำเว็บไซต์ด้วย งานที่เธอชอบตอนเรียนมัธยมปลายไง ถึงตอนนี้ฉันก็มีงานอดิเรกคือทำเว็บไซต์เหมือนเดิม
เธอได้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยนะ ถึงจะยังไม่ได้เสี้ยวของที่เธออยากไป ซึ่งก็แอบแม่ไปเสียส่วนใหญ่อยู่ดี ฮ่าๆ ยังมีอะไรอีกนะที่เธออยากจะทำและฝันถึง ? นึกออกแล้วจะบอกอีกทีนะ

ว่าแต่เรื่องงานอดิเรกเพลงโปรด ตอนนั้นก็ J-pop สินะ หลากหลายวงเลยที่รู้จัก ถึงแม้ตอนนั้นเน็ตจะกากสักหน่อย จำได้มั้ยกว่าเธอจะโหลดเพลงได้แต่ละเพลงใช้เวลาเป็นวัน แต่เธอก็มีโอกาสได้ฟังเพลงญี่ป่นดีๆเยอะแยะไปหมดเลยเนอะ ช่วงนั้นเธอชอบฟังเพลงของลาร์คใช่มั้ย ปีนั้นเป็นปีที่ยากลำบากชั้นจำได้ เธออยู่บ้านเพราะยังไม่มีที่เรียนแล้วก็เอาแต่ฟังเพลงของลาร์คเสียเป็นส่วนใหญ่ รู้มั้ย ฉันไปคอนเสิร์ตวงลาร์คมาแล้ว ได้ยืนแถวหน้าสุด เหมือนจะได้สบตากับลุงไฮด์ด้วย ฮ่าๆ  วง X-JAPAN ก็ไปดูมาแล้ว ใช่ ๆ เหล่านี้ก็เป็นฝันของเธอ

ยามะพีฉันก็ได้เจอตัวจริงแล้วนะ แต่ยังไม่เคยได้ไปดูคอนเสิร์ต แล้วก็จนถึงตอนนี้จน smap ประกาศยุติบทบาทของวง ฉันก็ยังไม่เคยได้ดูคอนเสิร์ตของตะกูลจอนนี่สักวง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ฉันได้พบกับวงที่สุดยอดเยอะแยะไปหมดเลย ทั้งจากวงการเพลงญี่ปุ่น Hiromi Go, Fukuyama Masaharu , Koda Kumi และวงเกิดใหม่หลายแหล่อย่างวง GreeeeN หรือ IKIMONOGAKARI และเพลงญี่ป่นเก่าๆต่าง           หรือวงการเพลงฝรั่ง ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้ฉันได้มาพบกับวงฝรั่งอย่าง Oasis, Plup,Clodplay  เยอะแยะแหละแต่หลักๆก็ฟังอยู่ประมาณนี้

น้ำพุ
เมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันแวะไปหาพี่เอ๋ จำได้มั้ยเพื่อนของอาต้อมอาต้อย ก็แวะไปหาเสมอๆแกขายของอยู่บนฟิวส์ ฉันขึ้นไปเล่นฟิตเนสเป็นประจำ แกนั่งพูดกับฉันว่า แกภูมิใจในตัวฉันแทนลุงพงษ์ป้าปิ่นมาก จากเด็กที่ไม่มีอะไรเลย กางเกงในก็เหลืองอ๋อยดำปี๊ บางทีรองเท้าก็ไม่มีใส่ เที่ยวเล่นมอมแมมอยู่แถวบ้านรายล้อมไปด้วยคนติดยา จะมาถึงจุดนี้ได้ จุดที่เลี้ยงพ่อแม่ จุดที่มีบ้านเป็นของตัวเอง (แถมแกยังคะยั้นคะยอให้เราซื้อรถด้วย เพราะพ่อแม่แก่แล้วไปไหนมาไหนจะได้ขับรถไป) ทั้งๆที่พ่อแม่ไม่ได้มีอะไรเลย ไม่สนใจเลย (พ่อแม่ฉันก็ไม่ได้แย่อย่าตีความผิดนะ แค่แกต้องหาเช้ากินค่ำแล้วปล่อยพวกเราตามมีตามเกิด)

 ไปกี่ครั้งก็พูดแบบนี้แหละ ฉันนี่ตัวลอยเลย เวลาไปหาฉันชวนพี่เอ๋กินนั่นกินนี่ แกไม่ยอมกินเลย เมื่อก่อนพี่เอ๋ชอบเลี้ยงพวกเธอซื้อขนมมาให้ ตอนนี้เราก็อยากตอบแทนแกบ้าง แกไปบอกอาต้อยว่า แกเกรงใจแล้วก็เขิลด้วย แค่หลานถามไถ่แกก็ดีใจแล้ว

สุดท้ายตอนนี้ฉันมาคิดว่าที่ผ่านมาจนอายุ 29 มันมีอะไรที่แย่นักหนา ฮ่าๆ ฉันไม่โทษพ่อแม่ที่เขาไม่มีแบบคนอื่น ฉันพึ่งคุยถามพ่อว่าทำไมพวกเราไม่มีนั่นมีนี่แบบคนอื่นเลยตอนเด็กๆ ทำไมไม่มีนาฬิกา ไม่มีรองเท้าใหม่ ไม่มีเกมส์เพลย์นั่นนี่ พ่อบอกว่าพวกเราไม่ขอพ่อเอง (ไม่รวมเรื่องขอตุ๊กตาหมีพูและชุดระบายสี ตอนนั้นเด็กมาก และคอมพิวเตอร์ตอนม.3) พ่อบอกว่าก็ไม่รู้ว่าเลี้ยงลูกยังไงที่ลูกไม่ ขออะไรจากพ่อแม่เลย อ้าววววววววววว ก็พ่อบอกว่า อยากได้อะไรก็ไปหางานทำไม่ใช่หรอ ไม่งั้นจะไปรับจ้างล้างจาน ปลอกไข่ นวด รับจ้างจัดโต๊ะเก็บโต๊ะโรงเรียนพิเศษทำไมล่ะ? เออพูดแล้วตลก จริงๆพ่อส่งไปเรียนพิเศษ แต่พวกเธออยากได้เงินเลยไม่เรียนพิเศษแต่เปลี่ยนเป็นรับจ้างครูๆจัดโต๊ะสอนพิเศษ แล้วออกไปเล่นๆๆพอถึเวลาเลิกเรียนพิเศษก็มาเก็บโต๊ะให้ครู รับเงิน เย่!!!!!!

พ่อแม่และใหม่
ความจริงนั้นได้เปิดเผยแล้ว ว่าทำไมเราถึงไม่มีอะไร ทำไมถึงได้แต่เสื้อผ้าเก่าๆ ก็พวกเราไม่ขอ และแม่ก็จัดหาให้ตามมีตามเกิด พ่อบอกว่า ต่อให้พ่อแม่ไม่มีเงิน พ่อแม่ก็อยากจะตามใจลูกเท่าที่ทำได้อยู่ แต่พวกเราไม่ขอเอง ฉันอยากจะบอกเธอว่า ถ้าพวกเรารู้ตัวเร็วกว่านี้ ฉันจะบอกเธอตอนอายุ 19 ว่าให้ขอพ่อซื้อเกมส์เพลย์สเตชั่นหน่อยน่ะ (ตอนนี้ก็ยังไม่มีเลย)


สุขสันต์วันเกิดนะ

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

Show Comments: OR

Flickr Images